FAQ: คำถามที่พบบ่อย

FAQ: คำถามที่พบบ่อย

ถาม: ไม่รู้จะเลือกซื้ออุปกรณ์กันกลิ่นตัวไหนดี?

ตอบ: ทางร้านมีอุปกรณ์กันกลิ่นหลากหลายรุ่น โดยที่แต่ละรุ่นต้องใช้กับท่อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตามสเป็กที่ระบุไว้  และหลักการทำงานของแต่ละรุ่นแตกต่างกัน ผู้ใช้อาจต้องเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ลูกค้าบางท่านเลือกใช้ซิลิโคนกันกลิ่นในห้องน้ำส่วนแห้งเพราะหลักการทำงานนั้นไม่ต้องมีน้ำขัง ขณะที่เลือกใช้ท่อสแตนเลสหรือกระบอกกันกลิ่นในส่วนเปียก ซึ่งมีการใช้น้ำเป็นประจำ เป็นต้นอีกเหตุผลประกอบคือการทำความสะอาด การใช้ท่อสแตนเลสและกระบอกกันกลิ่นในส่วนเปียกจะสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าซิลิโคน

ถาม: ซิลิโคนกันกลิ่นสามารถกันกลิ่นได้ดีแค่ไหน?

ตอบ: ซิลิโคนกันกลิ่นสามารถกันกลิ่นและแมลงได้ 100% เพราะปลายลิ้นของซิลิโคนจะปิดสนิทเสมอเมื่อไม่มีน้ำไหลผ่าน ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์กันกลิ่นควรที่จะแนบสนิทกับรูระบายน้ำ เพื่อไม่ให้มีการเล็ดลอดของกลิ่นและแมลงขึ้นมาจากท่อได้

ถาม: รูท่อระบายน้ำที่วัดมามีขนาดใหญ่กว่าสินค้าในเว็บ?

ตอบ: ร้านค้ามีอุปกรณ์เสริมสำหรับการติดตั้ง “ฐานรองอะคริลิค” ซึ่งทนทานต่อสารเคมีและเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำที่มีการใช้น้ำยาเคมีตลอดเวลาฐานรองอะคริลิคนี้มีขนาด 6 -11 เซนติเมตร ฐานรองอะคริลิคสามารถใช้กับท่อสแตนเลสและซิลิโคนกันกลิ่น ถ้ารอระบายน้ำในท่อฟอร์เดนมีขนาดระหว่างไม่เกิน 11 เซนติเมตรผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์กันกลิ่นได้

ถาม: ควรติดอุปกรณ์กันกลิ่นย้อนจากท่อน้ำทิ้งไว้ที่ไหนบ้าง?

ตอบ: โดยปรกติบ้านและอาคารจะมีระบบการระบายน้ำทิ้งใช้ท่อเส้นเดียวเชื่อมต่อทุกจุดของฟอร์เดน ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์กันกลิ่นต้องติดตั้งทุกจุดของท่อระบายน้ำทิ้งทั้งที่เป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง

ถาม: อ่างล้างหน้ามีกลิ่นย้อนจากท่อน้ำทิ้งจะแก้ไขได้อย่างไร?

ตอบ: สามารถติดซิลิโคนกันกลิ่นเข้ากับท่อใต้อ่างครับ ท่อส่วนใหญ่จะสามารถติดซิลิโคนกันกลิ่น Type D ได้ 

การติดตั้งจะต้องถอดท่อใต้อ่างแล้วจึงใส่ซิลิโคนกันกลิ่นตามคลิปวิดีโอสาธิตนี้ครับ... คลิปวิดีโอสาธิต

ถาม: ทำไมห้องน้ำที่บ้านถึงมีกลิ่นย้อนและแมลง?

ตอบ: กลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นในห้องน้ำมาจาก 2 สาเหตุหลักคือ

1) จากท่อน้ำทิ้ง โดยในห้องน้ำแต่ละห้องจะมีท่อน้ำทิ้งหรือท่อเดรน เพื่อรับน้ำทิ้งจากการใช้สอยเราทำให้เกิดสิ่งสกปรกเกาะอยู่ตามท่อน้ำทิ้ง เมื่อสะสมนานๆเข้าจะเป็นที่มาของกลิ่นเหม็น แมลงหวี่ และแมลงสาบ   ซึ่งในบางกรณีท่อน้ำทิ้งยังไปต่อเชื่อมเข้ากับบ่อเกรอะอีก ทำให้กลิ่นยิ่งรุนแรงขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งกลิ่นจากบ่อเกรอะและกลิ่นของเสียที่เกาะติดอยู่กับท่อน้ำทิ้ง โดยปกติทั่วไปบ่อรับน้ำทิ้งกับบ่อเกรอะต้องแยกกันคนละบ่อ ถ้านำมารวมเป็นบ่อเดียวกันจะเกิดปัญหากลิ่นแน่นอน ไม่ว่าบ้านใหม่หรือบ้านเก่าก็ตาม

2) มาจากโถสุขภัณฑ์ (ชักโครก) ซึ่งเกิดจากการติดตั้งที่ไม่ได้มาตราฐาน ไม่ได้ปิดช่องว่างระหว่างชักโครกกับท่อโสโครก  ถึงแม้จะมีปูนขาวตามขอบโถก็ตามแต่กลิ่นก็สามารถลอดมาได้อยู่ดี

ถาม: ต้องถอดทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน?

ตอบ: ความถี่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์ขึ้นกับลักษณะการใช้งาน เช่น อุปกรณ์ที่ติดตั้งในพื้นที่ส่วนแห้งและไม่ค่อยได้ใช้งานนั้นอาจไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดเลย ในขณะที่อุปกรณ์ที่ติดตั้งในส่วนอาบน้ำที่ใช้ประจำอาจมีเศษผมต่างๆ ติดค้างจึงควรถอดทำความสะอาด1-2 สัปดาห์ครั้ง ทั้งนี้อุปกรณ์ของทางร้านสามารถถอดล้างได้สะดวกครับ

ถาม: ใส่ท่อกันกลิ่นลงในรูระบายน้ำแล้วรู้สึกไม่ค่อยกระชับควรทำอย่างไร?

ตอบ: ในกรณีท่อสแตนเลสกันกลิ่นให้ใช้เทปพันเกลียวพันกับท่อสแตนเลสก่อนใส่ลงรูระบายน้ำ และสำหรับซิลิโคนกันกลิ่นนั้น

1) ใช้เทปพันเกลียวพันรอบแหวนกระชับ เป็นการเพิ่มขนาดแหวนให้กระชับกับรู้ท่อน้ำทิ้งมากยิ่งขึ้น

2) ใช้ยิงซิลิโคนในช่องว่างเพื่อให้กระชับ (แต่ข้อเสียคือไม่สามารถถอดมาทำความสะอาดได้) 

ถาม: กลิ่นมาจากโถสุขภัณฑ์?

ตอบ: กลิ่นเหม็นจากโถสุขภัณฑ์มักเกิดจากการที่ผู้รับเหมาไม่ได้ใส่ปะเก็นขี้ผึ้ง หรือปะเก็น wax ให้ตอนติดตั้ง  ซึ่งทางเราไม่มีทางตรวจสอบได้นอกจากจะรื้อโถสุขภัณฑ์ออกมาดู  และผู้รับเหมามักมีความเชื่อว่า ไม่จำเป็นต้องใส่ปะเก็นขี้ผึ้ง  แค่ใส่ปูนขาวรอบโถก็เพียงพอแต่เมื่อใช้ไปนานวัน ตัวปูนขาวสามารถร่อนออกมาได้  วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการให้ช่างใส่ปะเก็นขี้ผึ้งให้ครับ